50 สิ่งที่ควรรู้เพื่อความสนุกเ พลิดเพลินไปกับงานเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโรมากยิ่งขึ้น ~ประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็ง~

ขอนำเสนอเกร็ดความรู้ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงานเทศกาลหิมะ!
ถ้าคุณรู้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับงานเทศกาลหิมะได้มากยิ่งขึ้น! ทำให้อยากกลับมาอีกครั้ง! อยากที่จะคุยอวดกับทุกคน!

ประวัติความเป็นมาของงานเทศกาลหิมะ
วิธีการที่เพลิดเพลิน

17.แต่เดิม “雪 (หิมะ)” คืออะไร? ต้นกำเนิดของคันจิคืออะไร?

คันจิเขียนด้วย “雨 (ฝน) และ ヨ” “ヨ” หมายถึง ไม้กวาด แปลว่า ตกลงมาจากท้องฟ้าเพื่อทำความสะอาดกวาดทุกสรรพสิ่ง มีความหมายว่าหิมะที่เต็มไปด้วยสีขาวทำให้โลกสวยงาม

18.ใช้หิมะหลังกวาดหิมะหรือไม่?

รูปปั้นหิมะ ถ้ามีสิ่งไม่บริสุทธิ์เจือปนในหิมะ จะทำให้พังทลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับแสงอาทิตย์ ดังนั้นการสร้างรูปปั้นหิมะที่ปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราจึงใช้หิมะที่สะอาดไม่มีสิ่งไม่บริสุทธิ์เจือปน

19.หิมะมาจากที่ไหน?

เพียงแค่หิมะที่ตกลงมาที่สถานที่จัดงานไม่สามารถสร้างประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งได้ จึงมีการจัดส่งมาจากสวนสาธารณะใกล้เคียง และสนามกอล์ฟ

สถานที่ที่จะนำหิมะมาใช้งาน: สุสานทะคิโนะ, สุสานซาโตสึกะ, มาโคมาไนคันทรีคลับ, ซัปโปโรซาโตะแลนด์, สวนโมเอเระนูมะ, โทเบสึโจฟุโตมิ และอื่นๆ

20.ทำการเคลื่อนย้ายหิมะเป็นระยะทางเท่าไหร่?

รถบรรทุกขนส่งในปีที่ปริมาณหิมะตกลงมาในค่าเฉลี่ย ระยะทางรวมในการเดินทางอยู่ที่ประมาณ 190,000 กิโลเมตร แต่ในปีที่หิมะน้อยเคยเดินทางในระยะทางเกือบ 375,500 กิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่าระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ และระยะทางรอบโลก 9 รอบ

21.ใช้หิมะปริมาณเท่าไหร่?

หิมะที่ถูกส่งไปยังสถานที่ที่จัดงาน คือ รถบรรทุก 5 ตัน ประมาณ 6,000 คัน ใช้หิมะประมาณ 30,000 ตัน

22.ใช้เวลาในการสร้างประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งกี่วัน?

ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน สามารถเข้าชมการสร้างประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งในบริเวณใกล้ๆ สถานที่ที่จัดงานได้ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม

23.มีวิธีการทำอย่างไร?

จะทำการแกะสลักหลังจากที่ทำการโหลดหิมะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมได้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษที่นี่
เบื้องหลังการทำประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ใน “งานเทศกาลหิมะซัปโปโร” ที่มีชื่อเสียงของซัปโปโร

24.ใครเป็นผู้สร้างประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็ง?

รูปปั้นหิมะขนาดใหญ่ จัดทำโดยกลุ่มรูปปั้นหิมะขนาดใหญ่เมืองซัปโปโร ซึ่งประกอบไปด้วยกองกำลังป้องกันตนเอง และอาสาสมัคร รูปปั้นหิมะขนาดกลางกลุ่มประชาชนเป็นผู้จัดทำ การแกะสลักน้ำแข็งขนาดใหญ่ทำโดยเหล่านักปรุงอาหารสังกัดสมาคมแกะสลักน้ำแข็งประเทศญี่ปุ่นสภาเศรษฐกิจฮอกไกโด เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครใน 1 วัน มีประมาณ 20 คน โดยใช้เลื่อยไฟฟ้า และสิ่วแกะสลัก ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการแกะสลัก

25.สามารถมีส่วนร่วมในการสร้างรูปปั้นหิมะได้หรือไม่?

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 ได้มีการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างรูปปั้นหิมะขนาดใหญ่ ในการจัดงานครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมรวมทั้งหมด 1,000 คน ในปัจจุบันมีรูปปั้นหิมะขนาดเล็กที่สร้างโดยประชาชนประมาณ 85 ฐาน ซึ่งถูกสร้างขึ้นที่สถานที่จัดงานโอโดริ และสึโดมุ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดรับสมัครทีมผู้จัดทำตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ยื่นสมัครที่คณะกรรมการบริหาร และตัดสินจากการจับฉลากต่อสาธารณะชน อัตราการแข่งขันอยู่ที่ประมาณ 5-6 เท่าของทุกปี
จะทำการแจ้งให้ท่านทราบถึงวัน และเวลาในการรับสมัครบนเว็บไซต์ของงานเทศกาลหิมะ
SAPPORO SNOW FESTIVAL

26.ใช้เครื่องมืออะไร?

เริ่มจากพลั่วหรือมีดใบกว้าง และเลื่อย ใช้สิ่วแกะสลักขนาดเล็กใหญ่แกะสลักละเอียด และใช้ Scraper pole ที่มีลักษณะเหมือนสิ่วขนาดใหญ่ นอกจากนั้น ยังมีการใช้เครื่องจักรกลหนัก เช่น รถเครน เป็นต้น มีการสร้างนั่งร้าน จึงมีบรรยากาศเหมือนสถานที่ก่อสร้าง

27.หิมะจะละลายหรือไม่?

ในขณะสร้างจะมีการพรมน้ำให้แข็งตัว หากประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งเริ่มละลาย ก็จะทำลายรูปปั้นนั้นแม้อยู่ในช่วงงานเทศกาลก็ตาม

28.ขนาดความสูง และน้ำหนักเฉลี่ยของรูปปั้นคือเท่าไหร่?

(1) ประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งขนาดใหญ่……สูงประมาณ 15 เมตร รถบรรทุกหิมะประมาณ 5 ตัน จำนวน 500 คัน
(2) ประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งขนาดกลาง……สูงประมาณ 10 เมตร รถบรรทุกหิมะประมาณ 5 ตัน จำนวน 300 คัน
(3) ประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งขนาดเล็ก……สูงประมาณ 2 เมตร รถบรรทุกหิมะประมาณ 5 ตัน จำนวน 2 คัน

29.รูปปั้นหิมะที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้าง?

“กัลลิเวอร์ยินดีต้อนรับสู่ซัปโปโร” ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1972 สูง 25 เมตร รถบรรทุกบรรจุหิมะ 1,300 คัน และถูกนำมาใช้กับโอลิมปิกฤดูหนาว ทำให้งานเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโรได้รับความสนใจจากทั่วโลก

30.จะเกิดอะไรขึ้นกับประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็ง?

ประติมากรรมหิมะ และน้ำแข็งจะถูกรื้อถอนตั้งแต่กลางคืนวันสุดท้ายของงานเทศกาลหิมะจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนั้น กิจกรรมแบบไดนามิกก็กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว